แบบจำลองอะตอมของรัทเทอร์ฟอร์ด
ในปี ค.ศ.1909 รัทเทอร์ฟอร์ด ได้ทำการทดลองร่วมกับฮันส์ไกเกอร์และเออร์เนสต์ มาร์เดน
เพื่อศึกษาว่าถ้ายิงอนุภาคแอลฟาที่เกิดจากการสลายตัวของสารกัมมันตรังสีและอนุภาคที่มีประจุบวกไปยังแผ่นทองคำบาง
ๆ จะได้ผลอย่างไร
โดยก่อนการทดลองรัทเทอร์ฟอร์ดได้ใช้แบบจำลองอะตอมของทอมสันคาดคะเนผลการทดลองคืออะตอมของแผ่นทองคำมีโปรตอนกระจายอยู่ทั่วไปในอะตอม ดังนั้นเมื่อยิงอนุภาคแอลฟาเข้าใกล้กับโปรตอนของแผ่นทองคำซึ่งมีประจุบวกเหมือนกันจะผลักกันการเคลื่อนที่
ของอนุภาคแอลฟาน่าจะเบนไปจากแนวเดิมเป็นส่วนมาก
มีส่วนน้อยที่เคลื่อนที่เป็นเส้นตรง แต่ไม่มีอนุภาคแอลฟาสะท้อน กลับมา
ภาพการทดลองเป็นดังนี้
ผลการทดลอง สรุปได้ดังนี้
-
จุด X เป็นจุดที่อนุภาคแอลฟาผ่านไปยังฉากในแนวเส้นตรง แสดงว่า ภายในอะตอมน่าจะมีพื้นที่ว่างเป็นจำนวนมาก
เพราะ อนุภาคแอลฟาส่วนใหญ่ทะลุผ่านแผนทองคำเป็นแนวเส้นตรง
-
จุด Y อนุภาคแอลฟาเบี่ยงเบนเล็กน้อย
แสดงว่าภายในอะตอมควรมีอนุภาคบางอย่างรวมกันเป็นกลุ่มก้อนขนาดเล็ก
มีมวลมากพอที่ทำให้อนุภาคแอลฟาวิ่งไปเฉียดแล้วเบี่ยงเบน
-
จุด Z อนุภาคแอลฟาสะท้อนกลับ
แสดงว่าในอะตอมจะมีอนุภาคบางอย่างที่เป็นกลุ่มก้อน
มีทวลมากพอที่ทำให้อนุภาคแอลฟาสะท้อนกลับ
สรุปผลการทดลอง
– ส่วนใหญ่จะเดินทางเป็นเส้นตรง แสดงได้ว่าภายในอะตอมจะต้องมีที่ว่างมากมาย
– ส่วนน้อยจะมีการเบี่ยงเบนทิศทาง แสดงว่าภายในต้องมีอนุภาคที่เป็นบวกอยู่แต่มีขนาดเล็กนิดเดียว
– นาน ๆ ครั้งจะมีการสะท้อนกลับอย่างแรง แสดงว่าต้องมีอนุภาคที่มีมวลมากแต่มีขนาดเล็กรวมกันเป็นกลุ่มอยู่ภายในอะตอม
อนุภาคมูลฐานของอะตอม
– ส่วนใหญ่จะเดินทางเป็นเส้นตรง แสดงได้ว่าภายในอะตอมจะต้องมีที่ว่างมากมาย
– ส่วนน้อยจะมีการเบี่ยงเบนทิศทาง แสดงว่าภายในต้องมีอนุภาคที่เป็นบวกอยู่แต่มีขนาดเล็กนิดเดียว
– นาน ๆ ครั้งจะมีการสะท้อนกลับอย่างแรง แสดงว่าต้องมีอนุภาคที่มีมวลมากแต่มีขนาดเล็กรวมกันเป็นกลุ่มอยู่ภายในอะตอม
อนุภาคมูลฐานของอะตอม
อนุภาคในอะตอม
ในปัจจุบันพบว่าในอะตอมประกอบด้วยอนุภาคเล็ก ๆ มากกว่า 30 ชนิด และแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ดังนี้
1. อนุภาคที่ไม่เสถียร (unstable particles) เป็นอนุภาคที่ไม่อยู่ตัว สลายตัวได้ง่าย อนุภาคเหล่านี้เกิดจากการยิงนิวเคลียสของอะตอมด้วยอนุภาคชนิดต่าง ๆ ตัวอย่างอนุภาคที่ไม่เสถียรได้แก่ positron , antiproton , neutrino เป็นต้น
ในปัจจุบันพบว่าในอะตอมประกอบด้วยอนุภาคเล็ก ๆ มากกว่า 30 ชนิด และแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ดังนี้
1. อนุภาคที่ไม่เสถียร (unstable particles) เป็นอนุภาคที่ไม่อยู่ตัว สลายตัวได้ง่าย อนุภาคเหล่านี้เกิดจากการยิงนิวเคลียสของอะตอมด้วยอนุภาคชนิดต่าง ๆ ตัวอย่างอนุภาคที่ไม่เสถียรได้แก่ positron , antiproton , neutrino เป็นต้น
2. อนุภาคที่เสถียร (stable
particles) เป็นอนุภาคที่อยู่ตัว ไม่สลายตัว มี 3 ชนิดคือ โปรตอน นิวตรอน และอิเล็กตรอน เรียกอนุภาคทั้งสามว่า อนุภาคมูลฐานของอะตอม”
อนุภาค
|
สัญลักษณ์
|
ประจุไฟฟ้า (C)
|
ชนิดประจุไฟฟ้า
|
มวล (กรัม)
|
อิเล็กตรอน
|
e
|
1.602 x 10–19
|
-1
|
9.109 x 10–28
|
โปรตอน
|
p
|
1.602 x 10–19
|
+1
|
1.673 x 10–24
|
นิวตรอน
|
n
|
0
|
0
|
1.675 x 10–24
|
เลขอะตอม
เลขมวล และสัญลักษณ์นิวเคลียร์
1. เลขอะตอม (Atomic
number)
เป็นค่าเฉพาะสำหรับธาตุหนึ่ง ๆ ธาตุแต่ละชนิดมีเลขอะตอมไม่ซ้ำกัน
ดังนั้นเลขอะตอมจึงบอกชนิดของธาตุได้
2. เลขมวล (Mass
number)
คือตัวเลขที่แสดงผลรวมของจำนวนโปรตอนและจำนวนนิวตรอน มีสัญลักษณ์ A เลขมวลจะมีค่าใกล้เคียงกับมวลอะตอม (Atomic
mass) แต่เลขมวลเป็นเลขจำนวนเต็มเสมอ
ส่วนมวลอะตอมอาจเป็นจำนวนเต็มหรือทศนิยมก็ได้ และเลขมวลไม่เป็นค่าเฉพาะสำหรับธาตุ
ธาตุต่างชนิดกันอาจมีเลขมวลเท่ากันได้
เลขมวล = จำนวนโปรตอน + จำนวนนิวตรอน
เลขมวล = จำนวนโปรตอน + จำนวนนิวตรอน
3. สัญลักษณ์นิวเคลียร์
(nuclear symbol)
เป็นสัญลักษณ์ที่แสดงให้ทราบว่าอะตอมของธาตุ 1 อะตอมประกอบด้วยอนุภาคมูลฐานอย่างละกี่อนุภาค
ไอโซโทป
ไอโซโทน และไอโซบาร์
ไอโซโทป (Isotope)
หมายถึงอะตอมของธาตุชนิดเดียวกัน แต่มีเลขมวลต่างกัน
ไอโซโทน (Isotone)
หมายถึงอะตอมของธาตุต่างชนิดกัน มีเลขอะตอมและเลขมวลต่างกัน แต่มีจำนวนนิวตรอนเท่ากัน
ไอโซบาร์ (Isobar)
หมายถึงอะตอมของธาตุต่างชนิดกัน แต่มีเลขมวลเท่ากัน
ชนิด
|
เลขอะตอม
|
เลขมวล
|
จำนวนนิวตรอน
|
จำนวนโปรตอน
|
ชนิดของธาตุ
|
ไอโซโทป
|
เท่ากัน
|
ต่างกัน
|
ต่างกัน
|
เท่ากัน
|
ชนิดเดียวกัน
|
ไอโซโทน
|
ต่างกัน
|
ต่างกัน
|
เท่ากัน
|
ต่างกัน
|
ต่างชนิดกัน
|
ไอโซบาร์
|
ต่างกัน
|
เท่ากัน
|
ต่างกัน
|
ต่างกัน
|
ต่างชนิดกัน
|
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น